ยาแนวนั้นมีหลายประเภทสำหรับการใช้งานโดยที่ยาแนวแต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติพิเศษไม่เหมือนกัน เช่น ยาแนวห้องน้ำ ก็จะกันการรั่วซึมของน้ำ ยาแนวห้องครัว ก็จะต้องเป็นยาแนวที่สะอาดปราศจากเชื้อโรคและ แบคทีเรีย ยาแนวสำหรับใช้งานภายนอกก็จะทนทานต่อแดด ต่อฝน ทนแรงกดทับสัญจรได้ดี ส่วนยาแนวทั่วๆไปก็จะใช้สำหรับบริเวณที่ไม่ได้ใช้งานหนัก เช่น ห้องรับแขก ห้องนอน ห้องนั่งเล่น ยาแนวในปัจจุบันมียี่ห้อให้เลือกมากแต่ที่นิยม มี 2 ยี่ห้อ คือ ยาแนวเวเบอร์หรือยาแนวตราตุ๊กแก และ ยาแนวตราจระเข้ ทำไมยาแนวสองยี่ห้อดีงกล่าวถึงได้รับความนิยมเนื่องจาก ยาแนวทั้งสองยี่ห้อยังมีการปรับปรุงพัฒนาสูตรต่างๆออกมาเรื่อยๆ พร้อมทั้งปรับปรุงผลิตภัณฑ์ นอกจากนั้นยังทำการตลาดอย่างต่อเนื่อง โฆษณาของยาแนวและ ปูนกาวของทั้งสองยี่ห้อก็ยังสามารถหาดูได้ในโทรทัศน์ ทำให้มีความน่าเชื่อถือในระดับนึง ในขณะที่ยาแนวยี่ห้ออื่นเราอาจจะไม่ค่อยรู้จัก
การเลือกยาแนวให้เหมาะกับการใช้งานนั้นไม่ยาก เพียงแค่เรารู้ลักษณะงานที่จะทำเราก็สามารถเลือกบาแนวให้ตรงชนิดงานได้ หากไม่แน่ใจให้ลองถามคนขายบาแนวดูว่าจะนำไปใช้กับงานชนิดไหน เช่น ยาแนวภายนอก ยาแนวห้องน้ำ ยาแนวห้องนอน ยาแนวห้องครัว เป็นต้น เพียงเท่านี้เราจะได้ยาแนวที่เหมาะสมกับการใช้งานเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาภายหลัง หากไม่ใช่ยาแนวตามชนิดการใช้งาน เช่น นำยาแนวสำหรับห้องน้ำมาให้ห้องรับแขกอันนี้อาจจะไม่มีปัญหา แต่ถ้าหากนำยาแนวห้องรับแขกไปใช้กับห้องน้ำรับรองปัญหาเกิดแน่ๆ เนื่องจากยาแนวสำหรับห้องน้ำนั้นต้องกันน้ำรั่วซึมลงไปด้านล่างของกระเบื้อง หากใช้ยาแนวห้องรับแขก รับรองว่าเกิดปัญหาเรื่องการรั่วซึมของน้ำตามมาแน่ๆ ดังนั้นหากอยากจะทำการยาแนวด้วยตนเองแนะนำให้ลองศึกษาดูก่อนว่าใช้ยาแนวชนิดไหนในการยาแนว ใช้ให้ถูกประเภท เมื่อลงมือทำการยาแนวให้พยายามอัดยาแนวลงร่องให้แน่นๆเมื่อยาแนวเสร็จปาดผิวหน้ายาแนวให้เรียบเสมอกันเพื่อความสวยงามและขณะยาแนวหากยาแนวเลอะพื้นกระเบื้องใช้ฟองน้ำเช็ดออกอย่าให้เหลือคราบยาแนว เมื่อยาแนวเสร็จให้ปล่อยทิ้งไว้อย่าเพิ่งใช้งานพื้นที่ ที่เรายาแนวเพราะจะทำให้ยาแนวได้รับแรงกดทับอาจจะทำให้ยาแนวไม่สามารถยึดเกาะได้เต็มประสิทธิภาพอาจจะทำให้มีปัญหาตามมาได้ ดังนั้นควรจะให้ยาแนวแห้งสนิทก่อนจะเริ่มการใช้งาน เพื่อให้ใช้งานยาแนวได้เต็มประสิทธิภาพ